เมนู

พราหมณ์นั้น ทราบการเสด็จมาของพระศาสดา จึงสั่ง (ชนผู้เป็นบริวาร)
ว่า " พวกเธอจงนำสหายของเรามาแล้ว ให้นั่งที่นี้. " ชนผู้เป็นบริวารได้
ทำอย่างนั้นแล้ว. พระศาสดาประทับนั่งแล้ว ตรัสถามว่า " พราหมณ์
ไปไหน ? " เมื่อเขากราบทูลว่า " นอนในห้อง." ก็รับสั่งหาด้วยพุทธดำรัส
ว่า " พวกเธอ จงเรียกพราหมณ์นั้นมา. " เเล้วตรัสกะพราหมณ์ผู้มานั่ง
แล้ว ณ ส่วนข้างหนึ่งว่า " เป็นอะไร ? พราหมณ์."
พราหมณ์. พระโคดมผู้เจริญ ท่านมาสู่นาของข้าพเจ้าตั้งแต่วันที่
แผ้วถาง. แม้ข้าพเจ้าก็ได้พูดไว้ว่า " เมื่อข้าวกล้าเผล็ดผลแล้ว จักแบ่งส่วน
ถวายท่านบ้าง, ความปรารถนาในใจของข้าพเจ้าไม่สำเร็จเสียแล้ว; เพราะ
เหตุนั้น ความโศกจึงเกิดแล้วแก่ข้าพเจ้า, แม้ภัตข้าพเจ้าก็ไม่หิว. "

ตรัสเหตุแห่งความโศกและอุบายระงับความโศก


ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสถามพราหมณ์นั้นว่า " พราหมณ์ ก็ท่าน
รู้ไหมว่า ความโศกเกิดแล้วแก่ท่าน เพราะอาศัยอะไร ? " เมื่อพราหมณ์
กราบทูลว่า " พระโคดมผู้เจริญ ข้าพเจ้าไม่ทราบ, ก็ท่านทราบหรือ ? "
จึงตรัสว่า " อย่างนั้น พราหมณ์ ความจริง ความโศกก็ดี ภัยก็ดี เมื่อ
จะเกิด ย่อมอาศัยตัณหาเกิดขึ้น " ดังนี้ แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า :-
6. ตณฺหาย ชายตี โสโก ตณฺหาย ชายตี ภยํ
ตณฺหาย วิปฺปมุตฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ.
" ความโศก ย่อมเกิดเพราะตัณหา, ภัยย่อมเกิด
เพราะตัณหา; ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้พ้นวิเศษ
แล้วจากตัณหา. ภัยจักมีแต่ไหน. "